มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จัดพิธีส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศสู่สวรรคาลัย

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช จัดพิธีส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศสู่สวรรคาลัย ในวันศุกร์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๙.๓๙ น. ณ มณฑลพิธี ห้องนิลพยัคฆ์ สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช โดยมีผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากร และนักศึกษา ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

คำกล่าวถวายความอาลัย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
วันศุกร์ที่ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙
ณ มณฑลพิธี ห้องประชุมนิลพยัคฆ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช
-------------------------------------
ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ปกเกล้าปกกระหม่อม

ข้าพระพุทธเจ้า รองศาสตราจารย์วิมล ดำศรี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ในนามคณาจารย์ ข้าราชการ พนักงาน บุคลากร และนักศึกษา ซึ่งมา
ประชุมพร้อมกัน ณ มณฑลพิธีแห่งนี้ ขอประกาศราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติ ถวายความอาลัย
ถวายความจงรักภักดี เนื่องในพิธีส่งเสด็จพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มหิตลาธิเบศร์ รามาธิบดี จักรีนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ สู่สวรรคาลัยในทิพยวิมาน

จำเดิมแต่ครั้งปีพุทธศักราช ๒๕๓๔ ในขณะที่บรรดาวิทยาลัยครู ๓๖ แห่ง ทั่วประเทศ
ได้ขอพระราชทานนามของสถาบัน เพื่อเรียกขานสืบแทนนามเดิม ซึ่งมีปัญหาการสร้างความเข้าใจ ต่อสังคมไทย ในผลผลิตแห่งบัณฑิตแต่ละปี ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท สดับโสตรแล้ว จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานนาม “ราชภัฏ” เพื่อใช้แทนชื่อ “วิทยาลัยครู” เมื่อวันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๓๕

ใช่แต่เพียงเท่านั้น ล่วงถึงวันที่ ๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๓๘ ยังทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานตราพระราชลัญจกรประจำพระองค์ ให้เป็นตราสัญลักษณ์ประจำสถาบัน เป็นการเฉพาะ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันสูงส่ง เพราะไม่เคยมีสถาบันการศึกษาใด เคยได้รับพระราชทานเช่นนี้มาก่อน
จำเนียรกาลต่อมา เมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๔๗ อันเป็นวันคล้าย
วันเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ก็ทรงลงพระปรมาภิไธย ในพระราชบัญญัติ มหาวิทยาลัยราชภัฏ พุทธศักราช ๒๕๔๗ ส่งผลให้สถาบันราชภัฏ มีชื่อเป็น “มหาวิทยาลัยราชภัฏ” และมีสถานะเป็นนิติบุคคลโดยสมบูรณ์ ตั้งแต่วันที่ ๑๕ มิถุนายน ๒๕๔๗ เป็นต้นมา
การที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ แก่มหาวิทยาลัยราชภัฏ ก็ย่อมอนุมานได้ด้วยความมั่นใจว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงไว้วางพระราชหฤทัย ว่า ชาว “ราชภัฏ” ซึ่งหมายถึง “นักปราชญ์ของพระราชา” จะสามารถสนองพระราชประสงค์ ที่ทรงมีแก่ประชาชน ชาวไทยทั้งมวล ให้สัมฤทธิ์ผลขึ้นมาได้
จากวันนั้น วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๕ มาถึงวันนี้ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๕๙ เป็นเวลากว่า ๒๔ ปีแล้ว ที่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ พระราชทานนาม “ราชภัฏ” แก่วิทยาลัยครูในกาลอดีต อันเป็นต้นเค้า ของมหาวิทยาลัยราชภัฏ ในกาลปัจจุบัน พระมหากรุณาธิคุณนี้ ยังดำรงตราตรึงอยู่ในสำนึกของปวงข้าพระพุทธเจ้า
เมื่อสำนักพระราชวังประกาศว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
มหิตลาธิเบศร์ รามาธิบดี จักรนฤบดินทร์ สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคตแล้ว
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๕๒ น. ณ ศิริราชพยาบาล นั้น
มหาวิทยาลัยได้รับทราบข่าวนี้ ด้วยความสุดโศกเศร้า แสนอาลัย จึงขอตั้งจิตอธิษฐาน
ส่งเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศสู่สรรคาลัย ได้เสวยทิพยสุขใน สรวงสวรรค์ ชั้นสูงสุด พระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ จะยังคงอยู่ในดวงใจของพสกนิกรชาวราชภัฏนครศรีธรรมราชทั้งมวล เป็นนิรันดร์ และจะยึดมั่นในแนวพระราชดำริ พระบรมราโชวาท ฯลฯ เป็นประทีปธรรมนำชีวิต ปฏิบัติภารกิจให้สัมฤทธิ์ผล เพื่อความเจริญรุ่งเรือง ของชาติบ้านเมือง อย่างมั่นคง และยั่งยืนสืบไป
ปวงข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ขอพระราชทาน พระบรมราชวโรกาส น้อมเกล้าน้อมกระหม่อม ถวายสัตย์ปฎิญาณ ไว้แทบเบื้องยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ว่า
“จะขอเป็นข้าทูลละอองธุลีพระบาท จะเจริญรอยตาม พระราชปณิธาน
จะปฏิบัติกิจการงาน สนองพระมหากรุณาธิคุณ
จะค้ำจุนความดี และความมีศักดิ์ศรี ให้รุ่งเรือง
จะประเทืองเกียรติคุณสถาบัน ให้ไพศาล
จะขอเชิดชูภูบาล และพระราชลัญจกร ประจำพระองค์
อันเป็นราชภัฏสัญลักษณ์ ให้ยั่งยืนสืบไป ชั่วกาลนาน”

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ